วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ตั้งชื่อเมดแมวม่วงได้แล้วครับ!!

ในที่สุด เมดแมวม่วงของผมก็มีชื่อแล้ว!!

หลังจากนั่งใช้เวลาคิดตั้งนานกว่าหลายชั่วโมง
และก็ได้เพื่อนช่วยด้วยนะ งานนี้ 55

เมดแมวม่วง: "หึ! แค่ชื่อแค่นี้ ยังคิดไม่ได้เลยเหรอคะ ┐(︶▽︶)┌"

"ขอโทษละกันนะที่ไม่ได้เรื่องน่ะ ( ̄□ ̄」)"
แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ประกาศชื่อกันเลยดีกว่า

แมวฉันน่ะ แก้มนุ่มนิ่ม อย่างกับพุดดิ้งแน่ะ! (プルプル)
แถมสีม่วงก็ยังเป็นสีประจำตัวด้วย(パープル)

เพราะแบบนั้น ชื่อของเธอก็คือ
พูรุจังยังไงล่ะ!!
(プルちゃん)

พูรุจัง: ...
พูรุจัง: "ชื่อเห่ยสุด ๆ ว่ะค่ะ (︶︹︺)"

"ไม่ตั้งว่าคัตสึด้งก็ดีแค่ไหนแล้ว !! 💢💢"

ก็หลังจากนี้ ก็จะเป็นเมดแมวม่วง และก็ พูรุจังล่ะเนอะ

พูรุจัง: "ทาสของฉันมันไม่ได้เรื่องเลยค่ะ "
พูรุจัง: "ฉันก็เลยต้องดูแลเจ้านี่"
พูรุจัง: "สมกับเป็นทาสของฉันล่ะ เมี้ยว"
พูรุจัง: ┐( ̄∀ ̄)┌

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567

ทำโดนัทบน Blender เป็นแล้วครับผม ^^

 ในที่สุดก็ทำแมว เอ้ยย โดนัทในเครื่องปั่นได้แล้วล่ะครับผม


สีคุ้น ๆ ใช่ไหมครับ
ใช่แล้วล่ะครับ ผมเอาน้องแมวไ--- // **โดนข่วน**

พอดีว่าผมน่ะ ไม่ได้ปั้นเองหรอกครับ
ไม่ได้เป็นของปั้นด้วย
จริง ๆ แล้ว น้องแมวของผมเป็นคนอบเองครับผม


น้องแมว: "เมี้ยว ๆๆ ┐(︶▽︶)┌ "
น้องแมว: " ของแค่นี้เองเมี้ยว เรื่องง่าย ๆ ปอกกล้วยเข้าปากเองค่ะ <( ̄︶ ̄)> "


ไม่ว่าใครก็คงไม่เชื่อหรอกครับว่าน้องแมวเป็นคนทำ
ใช่ครับ ผมเองก---  แว้กกกกกก// **โดนกัดเข้าให้**

ดูสีหน้าที่น่าหมั่นไส้นั่นสิ ท่านผู้ชม ( ` ω ´ )
คืนนี้จะเหมียว ๆ ให้หนำใจเลย คอยดู 💢💢

วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2567

จะทำ Matcha Latte โว้ยครับ

วันนี้ซื้อผงชาเขียวมาครับ
และก็ไปซื้อกระปุกใส่ผงกาแฟมาด้วย แต่ว่ารอแห้งซักพักก่อน เดี๋ยวผมค่อยจัดการทีหลังละกัน

นี่แหละครับ มัทฉะลาเต้แบบครั้งแรกสุด ๆ 5555
คิดว่านมน้อยไปครับ เทียบกับขนาดของแก้ว แต่ยิ่งนมเยอะ ผงชาเขียวต้องเข้มตามด้วย

มีคนมาลองมอคค่าเย็นดูแล้ว รสชาติจางเพราะว่าน้ำแข็งดันละลายก่อน คราวนี้จะลองทำดูอีกทีครับ

วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ทำมอคค่าเย็นเป็นแล้วโว้ยยยครับ

วันนี้ตื่นมาก็อยากทำมอคค่าเย็นเลยครับ 5555



เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวานไปกินข้าวกับที่บ้านมาครับ
แล้วมันมีร้านกาแฟร้านนึงที่ผมชอบชีสเค้กมาก ๆ

แต่ว่าจุดที่ผมสนใจนั้น ไม่ใช่ชีสเค้กหรอกครับ
แต่เป็นวิธีทำมอคค่าเย็นต่างหากล่ะ 55555

คือมอคค่าร้อน ใคร ๆ ก็ทำเป็นใช่ไหมครับ
แต่พอจะแพลงเป็นมอคค่าเย็นล่ะ เอ๊ะ มันต้องทำยังไงกันนะ *-*

นี่เลยไปสั่งมอคค่าเย็น กับชีสเค้กมาครับ และก็นั่งดูเขาทำ
เขาใช้เอสเปรสโซ่ ผสมกับน้ำร้อน
นี่เริ่มงงละว่า มอคค่าเขาใส่น้ำร้อนด้วยเร๊อะ!?
ปรากฏว่าเป็นอเมริกาโน่ร้อนของโต๊ะข้าง ๆ ซะงั้น 55555

ส่วนมอคค่าเย็นนั้น แค่เปลี่ยนจากนมร้อน เป็นนมเย็น แค่นั้นเองครับ ส่วนตัวรู้สึกว่า แบบร้อนมีความแยกเป็นชั้น ๆ มากกว่าครับผม

วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

เรื่องวุ่น ๆ วันทานาบาตะ และ Necomaid

 พูดถึง Avatar ที่ผมใช้ และรักมาก ๆ เป็นพิเศษ
ก็คงหนีไม่พ้น น้องเมดหูแมว

Necomaid นั่นเองครับ
(^▽^)

ถ้าเพื่อน ๆ สงสัยว่าทำไมถึงเป็นน้องแมวตัวนี้แล้วล่ะก็
เรื่องมีอยู่ว่า
ในช่วงที่โคโรนาไวรัสระบาดอยู่นั้น
ผมก็เลือกที่จะเข้าไปอยู่ใน VRChat ครับผม
แต่เหมือนกับว่าผู้คนที่เข้าไปอยู่ในนั้นจะไม่ปกติกันซักเท่าไหร่
(รวมถึงฉันด้วยนี่แหละจ้า TT)

ในตอนนั้น ผมยังไม่ได้เข้าไปคุยกับใครหรอก
แต่ว่า ผมไปเห็นเข้าว่า
เรื่องของ Economy ใน VRChat
แฟชั่นส่วนใหญ่ของกลุ่ม Eastern ก็คือ Booth.pm นั่นเอง

และในตอนนั้น
ผมก็เจออวาต้าร์ที่อยากได้เป็นจำนวนมากในนั้นครับ

และอวาต้าร์ที่ราคาถูกมาก ๆ
และถูกตาถูกใจผมที่สุดก็คือ

Necomaid Rich ครับผม
(≧◡≦)


ผมชอบน้องเมดมาแต่เดิมแล้ว
ถ้านิสัยที่ชอบน่ะหรอ

ชอบนิสัยที่ใจเย็นครับ
ต่อให้เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด ก็ใจเย็น
เหมือนกับเรื่องนี้เกิดขึ้นมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งในชีวิต
เหมือนกับ Poker Face ที่จอมโจรคิดชอบทำน่ะ 55

เอ๊ะ นอกเรื่องแล้วซะงั้น orz

อันที่จริงน้องก็ไม่ได้น่ารักขนาดนั้นหรอกนะ (น้ำเสียงซึนเดเระ)
แต่ว่าก็รักน้องมาก ๆ 
แรก ๆ ก็เป็นเหมือนตัวแทน ตามนิยามของคำว่า Avatar เลยนะ
แต่ไป ๆ มา ๆ เหมือนเป็นน้องเมดคู่กายคู่ใจไปแล้ว 😭

ส่วนชื่อน้องน่ะ ยังไม่มีหรอกนะ 55
ทุกวันนี้ก็ยังเรียกว่าแมวม่วงอยู่เลย (─‿‿─)

เป็นแมวม่วงที่กินมะม่วง มะเขือม่วง มันม่วง แล้วก็ง่วงซะงั้น
เอ๊ะ มะม่วง สีอะไรกันนะ
แต่แมวม่วงดูสีท่าจะง่วงนะ Zzz

ผมก็พาน้องแมวไปรู้จักผู้คน รู้จักสถานที่ไปเรื่อย ๆ
ตอนนั้นน้องแมวผมยังเป็นน้องแมวเสื้อขาวฟ้า
ผมสีเทาอยู่เลยน่ะ

แต่ในทางศิลปะแล้ว
เพราะเรื่องราวในชีวิตที่พบกับเรื่องที่ดี และไม่ดีปะปนกันไป
ชุดของน้องแมวก็เลยเป็นเหมือนตัวบ่งบอกในเรื่องของการพบปะเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิต
ส่วนในเรื่องการตีความนั้น
เชิญเพื่อน ๆ จินตนาการได้ตามใจชอบเลย ^^



นั่นก็คือที่มาที่ไปว่า น้องแมวเมด
เอ๊ะ น้องเมดแมว
เอ๊ะ น้องแมวม่วง
เอ๊ะ น้องแมวเมดม่วง
เอ๊ะ น้องเมดแมวม่วง
ชื่อไหนดีล่ะเนี่ย งงไปหมดแล้ว
@~@

แต่ถึงอย่างนั้น นั่นก็คือน้องเมดที่ผมรักมาก ๆ ล่ะเนอะ 5555

ในวันอาบาบาบะที่ผ่านมา (ทานาบาตะ)
ผมก็ได้เข้าร่วมการเขียนทันซาคุ หรือป้ายขอพรในวันทานาบาตะนั่นเองครับผม
ซึ่งเป็นการเขียนลง Twitter ในรูปแบบรูปภาพครับผม

ซึ่งภาพนั้น ก็จะขึ้นไปอยู่บนโลก VRChat ที่ชื่อว่า Tanabata World นั่นเอง


แต่ว่าที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ
จะมีวันนึงที่ผมคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้
ไปค้นหาว่า Necomaid บน Youtube

แล้วดันไปเจอ VTuber คนนึง
ที่เขาชอบใช้ Necomaid มาก ๆ

และความตลกของฉันก็คือ
ด้วยความตะลึง ก็เลยพิมพ์คอมเม้นไปว่า
"ネコメイドだ!"
เป็นการพิมพ์ด้วยอารมณ์ที่รู้สึกดีนะ
แต่มาคิดดูอีกทีก็อายชาวบ้านอยู่เหมือนกัน 5555 =//=

แต่ว่าเจ้าตัวก็บอกว่า
"はい、ネコメイドです。"
ดิฉันก็เลยรู้สึกว่า บางทีมันก็มีความแอบอายเล็กน้อยก็เถอะ
แต่ว่านั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมรู้จักกับ VTuber คนนั้น



โปรโมทเลยละกัน 5555
คนนี้แหละ เมี้ยว ๆ

ที่พีคน่ะหรอ
คือฉันก็อัพโหลดภาพน้องแมวในวันทานาบาตะตามปกตินั่นแหละ
พีค 1 ก็คือ เจ้าของอวาต้าร์ รีโพสต์ภาพฉันน่ะสิ!
พีค 2 ก็คือ ฉันไม่เคยรู้เลยว่า VTuber ท่านนั้นจะเล่น Twitter ด้วยนะสิ 55555 =//=

แต่ว่านะ ก็ดีใจมาก ๆ และขอบคุณมาก ๆ ที่แวะเข้ามาหานะครับ QwQ
ขอฝากน้องแงว(แมว) ตัวนี้ด้วยนะค้าบบ

วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

มาประกอบคอมถึงบ้านเพื่อนโว้ยครับ

 หลังจากที่ผมได้นั่งรถไฟฟ้าเพื่อไปลงแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ ผมก็ได้นั่งรถหลายต่อ เพื่อไปหาเพื่อนที่รู้จักกันบนเน็ตฯ ครับผม

เขาเป็นโอนี่จังที่แสนดีของผมเองครับ พูดแล้วก็เขินจัง =//=

หลังจากที่ผมไปถึงบ้านของเขา ผมก็ไม่รอช้าวางระเบิด ฟูโมะ ไว้หน้าบ้านของเขาครับ
เป็นเครื่องหมายว่า "ฉันมาเยือนแล้วนะโว้ยยยย" อะไรแบบนั้นครับ 555555

หลังจากนั้น ผมก็ปัดฝุ่นคอมให้กับเขา
แต่ว่าเรื่องที่ผมต้องตกใจมากที่สุดคือ ถึงแม้เขาจะเปลี่ยนคอมใหม่ได้ปีนึงแล้ว
แต่ว่าคอมของเขามีฝุ่นเยอะมากกกก

ถ้าใครเคยเห็นพวกวิดีโอคนเป่าฝุ่นคอม
ฝุ่นที่เกาะหนักเยอะมาก ๆ แบบนั้น ตอนแรกผมก็นึกว่าจัดฉาก

แต่พอผมได้มาเจอคอมพี่จ๋าผมแล้ว
อยากจะบอกว่า คลิปพวกนั้นมันไม่เกินจริงเลย
เผลอ ๆ หนักกว่าด้วย เหวออออ ;w;

หลังจากปัดฝุ่นคอมให้ ผมก็เอา 3060 ที่พกมาจากบ้าน เสียบเข้าไป
เพื่อให้เพื่อนยืมพลังแห่งความแรงมากขึ้น

หลังจากป้ายยาเสร็จ ผมก็ตัดสินใจกลับโรงแรมทันที
และหนึ่งวันของผมก็หมดลง

มาเที่ยวกทม. วันแรก (ต่อ)

หลังจากที่ผมขอตัวครั้งล่าสุด ผมก็เลือกที่จะนั่งแท็กซี่ครับผม

อันที่จริง ผมพยายามเลี่ยงแท็กซี่ แต่ก็ไม่สำเร็จครับ
เพราะว่าทางเดินก็ไม่มี เหมือนกับถูกบังคับให้ขึ้นแท็กซี่ อย่างไรอย่างนั้น

ผมจึงเรียกแท็กซี่ผ่านแอปฯ เอา
เพราะว่าไม่อยากถูกแท็กซี่เหมาลากตัวไปครับ ยังไงก็เสี่ยงน้อยสุดสำหรับพื้นที่นั้น

หลังจากที่นั่งแท็กซี่เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าแล้ว ก็มุ่งตรงมาที่สถานีสนามกีฬา เพื่อจะมาเยี่ยม MBK Center อีกครั้งนึงในรอบหลายปี



เป็นสถานที่ ที่ทำงานของเพื่อนผมเมื่อก่อนครับ
แต่ว่าห้างยังไม่เปิด เพราะว่าผมมาเช้าเกินไปครับผม

ก็เลยไปนั่งหาที่ชาร์จแบตฯ ก่อน เพราะว่าแบตฯ ผมก็ใกล้จะหมดแล้ว


เป็นคุกกี้ที่หวานมาก ๆ จนผมต้องเหลือมันเอาไว้
เพราะว่าถ้ากินหมด ผมคิดว่าน่าจะไม่ดีต่อสุขภาพเอาแน่ ๆ ครับ

ต่อมา ผมก็เข้าไปเที่ยวในห้าง
เพราะว่าโรงแรมผมเช็คอินตอน บ่าย 2ครึ่ง ครับผม

เป็นการรอคอยที่ค่อนข้างโหดเอาเรื่องเลยครับ
9.00 >> 11.00 >> 14.30

พอได้เข้าไปใน MBK ก็รู้สึกว่าคนเยอะมาก ๆ ครับ
เพราะตอนปีใหม่ที่ไปเที่ยว คนน้อยกว่านี้มากครับผม

ตอนนั้น ผมก็ได้ไปแตะตู้ที่ชื่อว่า DDR อีกครั้งครับ
เพราะว่าผมซ้อมเล่นจากที่บ้าน กะว่าจะไปโชว์เทพซักครั้งดู 5555


ก็ปรากฏว่าโชว์เทพจริง ๆ ครับ
มีนักท่องเที่ยวที่ไหนมาเล่นครั้งแรกแล้ว Full Combo เพลง ระดับ Difficult บ้างล่ะครับ 55555
"ฉันนี่มันเก่งจริง ๆ นะเนี่ย วะฮะฮะฮะฮ่าาาา"
หลังจากนั้น ก่อนกลับผมก็ได้ไปเจอเพื่อนที่รู้จักอีกคนนึงครับผม

ก็ได้เซลฟี่ไปตึง ๆ ทีนึงครับ XD



หลังจากนั้นผมก็กลับโรงแรม เพื่อจะไป
ประกอบคอมให้กับบุคคลปริศนาต่อไป...




วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2567

มาเที่ยวกทม. วันแรกโว้ยยยย

วันนี้ก็มาเที่ยวกทม. ครับผม
คราวนี้มารถบัสเหมือนเดิม เอากล้องตัวเดิมมาด้วย


ค่อนข้างตกใจอยู่ที่ผู้คนที่นี่ค่อนข้างเร่งรีบกว่าที่คิดมาก ๆ
และพื้นที่บางจุด ต้องใช้ความระมัดระวังมาก ๆ ในฐานะคนต่างถิ่น เพราะว่ากรุงเทพฯ ไม่มีฟุตบาตเหมือนกับเชียงใหม่
ผู้คนดูเร่งรีบมาก ๆ และถนนตอนตี 5 ก็เต็มไปด้วยรถแท็กซี่

ประสบการณ์นั่งแท็กซี่ ทำให้รู้ว่า การขับขี่รถในกรุงเทพนั้นต่างจากเชียงใหม่ราวกับฟ้า และเหว

ที่เชียงใหม่ ผู้คนขับรถอย่างเป็นระเบียบ และไม่เร่งรีบ ต่างจากกรุงเทพฯ ที่การข้ามถนนเป็นเรื่องทีอันตรายมาก ๆ

เดี๋ยวผมขอตัวก่อนละกันเน้อ