ความร่วมมือระหว่างเทคโนโลยีกับโลก (Internet of Things)

 Internet of Things (IoT) หมายถึง "สิ่ง" จำนวนมากมายที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อให้พวกเขาสามารถแบ่งปันข้อมูลกับสิ่งอื่น ๆ - แอปพลิเคชัน IoT อุปกรณ์เชื่อมต่อเครื่องจักรอุตสาหกรรมและอื่น ๆ อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตใช้เซ็นเซอร์ในตัวเพื่อรวบรวมข้อมูลและในบางกรณีก็ทำเช่นนั้น อุปกรณ์และเครื่องจักรที่เชื่อมต่อ IoT สามารถปรับปรุงวิธีการทำงานและการใช้ชีวิตของเรา ตัวอย่าง Internet of Things ในโลกแห่งความเป็นจริงมีตั้งแต่บ้านอัจฉริยะที่ปรับความร้อนและแสงสว่างโดยอัตโนมัติไปยังโรงงานอัจฉริยะที่ตรวจสอบเครื่องจักรอุตสาหกรรมเพื่อค้นหาปัญหาจากนั้นปรับอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลว

(อ้างอิงจาก ที่นี่)

    Internet of Things นั้น เป็นการยกระดับของการทำงานทุกอย่างให้มี และเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถ้าในเรื่องของการค้า ก็จะเป็นการนับสต็อก ชั้นวางของออนไลน์ หรือติดตามสินค้าคงคลัง

    Internet of Things นั้นไม่ได้อยู่แค่ในการค้าอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีในการใช้ในหลาย ๆ ด้าน

    ขอยกตัวอย่างเช่น

การอุตสาหกรรม

สามารถนำ IoT ไปใช้จำลองสินค้าและหาข้อผิดพลาด เพื่อลดความผิดพลาดในการผลิต และใช้เครื่องจักรในการผลิตแทนคนเพื่อความรวดเร็ว และแม่นยำ

การขนส่ง

ขอยกตัวอย่างเป็นรถบัสนะครับ IoT ที่ใช้ก็คือ GPS ซึ่งในการให้บริการจะมีการประมาณเวลาที่จะถึงป้ายถัดไป เพราะบางครั้งรถเมล์ก็สามารถมาช้าหรือเร็วกว่าเวลาได้เหมือนกัน โดย GPS สามารถบอกสถานที่ ที่รถเมล์ในแต่ละรอบอยู่บนถนนได้

ด้านสุขภาพ

ในปัจจุบัน เครื่องออกกำลังกายหลาย ๆ ประเภทนั้นสามารถคำนวณพลังงานที่ใช้ในการออกกำลังกายต่อครั้งได้อย่างแม่นยำ และนอกจากเครื่องออกกำลังกายแล้ว ยังมีเครื่องมือที่สามารถตรวจสอบการใช้ชีวิตของเราได้อย่างนาฬิกา Smart Watch ที่สามารถวัดเวลาการนอน และการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำ

นอกจากนี้ ยังมีการใช้ IoT ในชีวิตประจำวันอีกมากมายที่ยังไม่ได้อธิบายไว้ ในปัจจุบัน IoT ก็ยังเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีในด้านใด ก็เกี่ยวข้องกับ IoT ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเราไม่สามารถปฏิเสธเทคโนโลยีในยุคนี้ได้เลย

เทคโนโลยี และความสะดวกสบายที่มองไม่เห็น (Cloud Computing)

ถึงแม้จะไม่รู้ว่า Cloud Computing คืออะไร

ขอให้มองบล็อกนี้ว่าเป็นสิ่งที่มาจาก Cloud Computing นะครับ

นิยาม

Cloud Computing คือการใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อส่งมอบบริการผ่านเครือข่าย (โดยทั่วไปคืออินเทอร์เน็ต) ด้วยการประมวลผลแบบคลาวด์ผู้ใช้สามารถเข้าถึงไฟล์และใช้แอพพลิเคชั่นจากอุปกรณ์ใดก็ได้ที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้

(อ้างอิงจาก ที่นี่)

Cloud Computing จำแนกออกมาได้ 3 ประเภทดังนี้

-InfrastructureasaService(IaaS)เป็นโครงสร้างพื้นฐานเหมือนกับระบบคอมพิวเตอร์คือมีทั้งหน่วยประมวลผลระบบเครือข่ายและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้ใช้งาน

-PlatformasaService(PaaS)เป็นการใช้งานเกี่ยวกับแพลตฟอรม์ต่างๆเช่นการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชั่นหรือโมบายแอปพลิเคชั่นเป็นต้น

-SoftwareasaService(SaaS)เป็นการใช้งานทางด้านซอฟต์แวร์ซึ่งภายใต้ระบบหรือเทคโนโลยีCloudComputingจะมีซอฟต์แวร์เฉพาะด้านเช่นซอฟต์แวร์ทางบัญชีซอฟต์แวร์การบริหารจัดการโรงแรมและอื่นๆซึ่งจ าเป็นสำหรับธุรกิจประเภทต่างๆให้ใช้งาน

ถ้าให้นึกถึงสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

ที่เก็บไฟล์

Google Drive

Microsoft Onedrive

Dropbox

MEGA

แอพลิเคชั่นจ่ายเงิน-โอนเงิน-รับเงิน

TrueMoney Wallet

SCB Easy

K+

Shopee pay

Krungthai Next

และอีกมากมาย...

ยกตัวอย่างกรณี

ผมทำการบ้านด้วยคอมของโรงเรียน แต่ผมอยากทำต่อที่บ้าน แต่ผมไม่ได้นำ Thumb drive มาด้วย ผมจึงนำไฟล์ที่ผมทำ ใส่เข้าไปใน Google Drive และกลับบ้านไปเปิด Google Drive นำไฟล์ของผมออกมาทำต่อ

เทคโนโลยีที่เรียนรู้จากความผิดพลาด ไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ (AI)

 หากเราเคยเล่นเกมจำพวกหมากรุก หรือเกมอย่างปิงปอง เราเองก็คงจะรู้ว่า ทุกเกมของเราที่แพ้นั้น ทำให้เราเรียนรู้วิธีที่จะชนะได้มากยิ่งขึ้น ยิ่งเล่นแพ้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจำความผิดพลาดได้มากขึ้นเท่านั้น และเมื่อเราเรียนรู้ความผิดพลาดมากพอแล้ว เราก็พร้อมที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

นี่เป็นส่วนหนึ่งของหลักการจากเทคโนโลยี AI

วิเคราะห์เทคโนโลยีจาก Pokémon GO (AR+)

เกมที่เปิดมาตลอด 5 ปีอย่างโปเกม่อนโก

มีรายได้สะสมตั้งแต่เปิดเกมรวมเป็น 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ราว ๆ 133,640,000,000 บาท (หนึ่งแสนสามหมื่นสามพันหกร้อยสี่สิบล้านบาท)

โดยเกมมือถือที่ฮิตช่วงหนึ่งในประเทศไทยเรานั้น ตอนนี้ก็ยังพัฒนาอยู่เรื่อย ๆ โดยที่มีสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก และมีประโยชน์ในด้านอื่นด้วย

ในช่วงที่เกมออกมาได้ประมาณช่วงหนึ่ง ก็มีการเพิ่มเทคโนโลยีหนึ่งเข้าไปในเกมที่เรียกว่า AR+ 

จากการจับโปเกม่อนที่ใช้เข็มทิศในการหันหน้าหา จะกลายเป็นการหาพื้นเพื่อวางโปเกม่อน และจับในที่สุด

เทคโนโลยีที่จะนำมาพูดวันนี้เรียกว่า

Augmented Reality

เทคโนโลยีเสมือนจริง (Augmented Reality: AR)

เป็นประเภทหนึ่งของเทคโนโลยีความจริงเสมือนที่มีการนําระบบความจริงเสมือนมาผนวกกับเทคโนโลยีภาพเพื่อสร้างสิ่งที่เสมือนจริงให้กับผู้ใช้และเป็นนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่มีมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2004

จัดเป็นแขนงหนึ่งของงานวิจัยด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ว่าด้วยการเพิ่มภาพเสมือนของโมเดลสามมิติที่สร้างจากคอมพิวเตอร์ลงไปในภาพที่ถ่ายมาจากกล้องวิดีโอเว็บแคมหรือกล้องในโทรศัพท์มือถือแบบเฟรมต่อเฟรมด้วยเทคนิคทางด้านคอมพิวเตอร์กราฟิก

ปัจจุบันเทคโนโลยีเสมือนจริงถูกนํามาประยุกต์ใช้กับธุรกิจต่างๆไม่ว่าจะเป็นด้านอุตสาหกรรมการแพทย์การตลาดการบันเทิงการสื่อสารโดยใช้เทคโนโลยีความจริงเสมือนมาผนวกเข้ากับเทคโนโลยีภาพผ่านซอฟต์แวร์และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆและแสดงผลผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือทําให้ผู้ใช้สามารถนําเทคโนโลยีเสมือนจริงมาใช้กับการทํางานแบบออนไลน์ที่สามารถโต้ตอบได้ทันทีระหว่างผู้ใช้กับสินค้าหรืออุปกรณ์ต่อเชื่อมแบบเสมือนจริงของโมเดลแบบสามมิติที่มีมุมมองถึง 360 องศาโดยผู้ใช้ไม่จําเป็นต้องไปสถานที่จริง

(อ้างอิงจาก ลิ้งก์)

แต่ว่าไม่ใช่มือถือทุกเครื่องที่จะสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ได้

ตัวอย่างการใช้ AR+ ของ Pokémon GO

Shopee Pay - การนำเทคโนโลยีมาใช้อีกครั้งเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตปัจจุบัน (NFC)

    

ว่าด้วยเรื่องNFC

    ต้องขอพูดก่อนเลยครับว่า ตอนที่ผมรู้จักกับ NFC ครั้งแรก มันทำให้ผมมีความรู้สึกชื่นชอบมันเป็นอย่างมาก เพราะเราไม่ต้องเสียเวลา และมันทำให้ชีวิตสะดวกขึ้นมาก อย่างเช่น การเปิดแอพด้วยการแตะ หรือไม่ก็การส่งไฟล์/แลกเปลี่ยนไฟล์ด้วยการแตะโดยใช้ข้างหลังโทรศัพท์เอามาชนกัน 

โดยการใช้ NFC นั้นจะสะดวกกว่า QR Code เป็นอย่างมาก 

    เพราะไม่จำเป็นต้องเปิดแอปฯ อะไรในการใช้งาน เพียงแค่ปลดล็อกโทรศัพท์แล้วเอาข้างหลังโทรศัพท์แตะไปที่เครื่องอ่านบัตรเครดิตที่มีเครื่องหมาย Paywave เรียนรู้เพิ่มเติม

Shopee Pay กับการบุกเบิก

    มีแอปฯ ไม่มากในปัจจุบันที่จะใช้ NFC ในการจ่ายเงินเลย โดยในปัจจุบันมีเครื่องรับจ่ายด้วยบัตรแบบ Contactless ที่มากมาย แต่จะมีแค่กี่คนที่เลือกที่จะรวมทุกอย่างไว้ในที่เดียวอย่าง Smart Phone

การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของ Airpay เป็น Shopee pay นั้น จำเป็นต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อให้แอปฯ มีความสนใจจึงได้มีเทคโนโลยี Near Field Communication มาใช้ร่วมกับแอปฯ ด้วย ทำให้ลูกค้า Airpay เดิม เปิดใจกับแอปฯ ในรูปแบบ สี และชื่อ ใหม่ได้ด้วย ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก ๆ และหวังว่าในอนาคต จะมีการให้ความสนใจกับ NFC มากขึ้นอย่างแอปฯ ธนาคารเป็นต้น

ผลกระทบจากเทคโนโลยี

 ทุกวันนี้เราไม่สามารถปฏิเสธเทคโนโลยีได้เลย เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีก็ต่างเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น และมากขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่ว่าอีกด้านหนึ่งนั้น เทคโนโลยีก็ส่งผลเสียต่อโลกเช่นเดียวกัน

วันนี้ผมไปหาข้อมูลมาว่าเทคโนโลยีนั้น ส่งผลดี ผลเสียอย่างไรต่อโลกของเราบ้าง